-
ไดสตาร์ทรถยนต์คือ….?
ไดสตาร์ท รถยนต์มีหน้าที่การทำงานยังไง และวิธีบำรุงรักษาหรือแก้ไขอย่างไร…?
ไดสตาร์ทรถยนต์ ไดสตาร์ท หรือ มอเตอร์สตาร์ท (Starter motor) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดได้ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเรื่อง หน้าที่และการทำงานของไดสตาร์ท อาการเสียหรือเสื่อมพร้อมทั้งวิธีบำรุงรักษาและวิธีแก้ไขเบื้องต้น ไปดูกันเลยครับ >>
หน้าที่ของไดสตาร์ท
คือตัวที่ส่งกำลังฉุดให้เครื่องยนต์ทำงาน แต่เมื่อหลังจากที่เครื่องยนต์ทำงานแล้ว ไดสตาร์ทก็จะหยุดทำงานโดยทันที โดยเป็นเพียงแค่การทำงานระยะสั้นๆเท่านั้น
การทำงานของไดสตาร์ท
คือเมื่อเราบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง ON หรือ กดปุ่มสตาร์ท (Push Start) จะมีกระแสไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี่เข้าไปยังระบบคอยล์จุดระเบิดและหัวเทียนรถยนต์ เพื่อเตรียมพร้อมและหลังจากที่เราบิดกุญแจไปตำแหน่งสตาร์ท ตัวโซลีนอยด์จะทำหน้าที่ดันก้านปูให้เฟืองไปขับเฟืองไฟวิน โดยหลักการทำงานนี้ก็จะอาศัยกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เช่นกัน แน่นอนว่าหากแบตหมดสตาร์ทไม่ติดแน่นอน
อาการไดสตาร์ทค้าง
หากไดสตาร์ทเกิดอาการค้างหลังจากที่เครื่องยนต์ติดแล้วคือ ไดสตาร์ทหมุนฟรีและมีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา
สาเหตุ อาจเกิดจากมีสนิมหรือสิ่งสกปรกเข้าไป จนทำให้โซลินอยเกิดการฝืดไม่เด้งกลับเพราะค้าง มอเตอร์เลยหมุนตลอดเวลา
วิธีแก้ไข ทางที่ดีที่สุดคือ การถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ ออกก่อนเพื่อตัดกระแสไฟฟ้าไม่ให้ไดสตาร์ททำงาน หรือถ้ารู้ต่ำแหน่งของไดสตาร์ทให้ถอดปลั๊กของไดสตาร์ทออก เพราะถ้าไดสตาร์ทค้างเป็นระยะเวลานานจะทำให้ไดสตาร์ทไหม้ได้
อาการไดสตาร์ทเสียหรือเสื่อม
1.เมื่อกดปุ่มสตาร์ทหรือบิดกุญแจเพื่อสตาร์ท แล้วเงียบเครื่องยนต์ไม่มีอะไรตอบสนอง
2.แปรงถ่านในไดสตาร์ทไกล้หมดจะมีอาการสตาร์ทติดบ้างไม่ติดบ้างเป็นบางครั้ง หรืออาการเหมือนไม่มีแรง
3.หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วยังมีเสียงฟรีของไดสตาร์ทอยู่
วิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อไดสตาร์ทเสียหรือเสื่อม
1.หากรถสตาร์ทไม่ติดเนื่องจากไดสตาร์ทหรือไม่ทำงาน การตรวจสอบเบื้องต้นคือ ดูขั้วของแบตเตอรี่ทั้งขั้วบวกและลบว่ายังอยู่ในสภาพที่แน่นไม่หลุดหรือหลวมและไม่ควรมีคราบขี้เกลือเกาะอยู่เพราะจะทำให้กระแสไฟฟ้าที่ออกมาไม่สมบูรณ์
2.ลองสตาร์ทแบบรวดเดียว คือบิดกุญแจไปตำแหน่งสตาร์ทแบบรวดเร็วเพราะบางทีอาจจะช่วยทำให้สตาร์ทติดได้
3.มองหาตำแหน่งของไดสตาร์ทแล้วใช้ประแจหรืออะไรยาวๆที่สามารถใช้เคาะไดสตาร์ทได้ เคาะสัก 3-5 ครั้งเบาๆ เพราะด้านในอาจเกิดสกปรกหรือมีสนิม
4.สำหรับรถเกียร์ธรรมดา อาจจะแก้ไขเฉพาะหน้าได้ก็คือวิธีเข็นแล้วสตาร์ท
5.นำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการไกล้บ้าน
วิธีบำรุงรักษาไดสตาร์ท
1.ในขณะที่บิดกุญแจเพื่อที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ หากรู้สึกว่าเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยมือทันที ไม่ควรบิดแช่ไว้นานเพราะจะทำให้ไดสตาร์ทเกิดเสียหายและไหม้
2.ไม่ควรมีคราบน้ำมันและฝุ่นละอองเกาะเคลือบอยู่ที่ตัวไดสตาร์ทเพราะอาจจะทำให้แปรงถ่านสกปรก จนทำให้ไดสตาร์ทไม่หมุนหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
3.ไม่ควรให้มีน้ำหรือความชื้นเข้าไดสตาร์ท เพราะจะทำให้ แปรงถ่านขัดตัว ไดสตาร์ทไม่หมุน อุปกรณ์ภายในเป็นสนิมและเสียหายได้
ข้อแนะนำ
หากจำเป็นต้องถอดไดสตาร์ทควรถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออกก่อนทุกครั้งและเมื่อตรวจเช็คเรียบร้อยแล้วควรขันน็อตยึดไดสตาร์ทให้อยู่ตำแหน่งเดิมและแน่น
หลายท่านอาจเกิดความสับสนว่าหากรถยนต์สตาร์ทไม่ติด ต้องเป็นที่แบตเตอรี่เสื่อมหรือหมดแน่นอน แต่ความเป็นจริงแล้วสาเหตุอาจจะมาจาก ไดสตาร์ทเสียหรือไดชาร์จไม่ทำงาน ก็ได้ หากตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่แล้วยังอยู่ในสภาพใหม่
เนื่องจากรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลานานอุปกรณ์บางตัวย่อมเกิดการสึกหรอหรือเสียหายเกิดขึ้น และไดสตาร์ทเสียเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลาไม่ว่าจะเครื่องร้อนหรือเครื่องเย็น ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติตามที่กล่าวมาควรรีบให้ช่างตรวจสอบทันที เพราะถ้าทำเองและไม่มีความรู้ความชำนาญอาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม
ป้ายกำกับ:Push Start, การดูแล รักษารถ, การทำงาน, ปุ่มสตาร์ท, มอเตอร์สตาร์ท, วิธีบำรุงรักษา, วิธีแก้ไข, สตาร์ทไม่ติด, สาเหตุ, หน้าที่, ไดสตาร์ท, ไดสตาร์ทค้าง, ไดสตาร์ทเสีย, ไดสตาร์ทเสื่อม, ไดสตาร์ทไม่ทำงาน, ไดสตาร์ทไหม้
